เป็นเรื่องเล่าของ Edward Bloom ชายหนุ่มจากแอชตั้น อลาบามาเอ๊ดเวิร์ด เติบโตขึ้นในเมืองเล็กๆ เนื้อหาของหนังได้แสดงให้เห็น “ปัญหา” หนังเล่าเรื่องราวกับว่าชีวิตของ Edward เป็นเทพนิยาย ไม่ว่าจะเป็นวิธีการที่เขาโตเร็วผิดปกติ เห็นความตายในตาปลอมของแม่มด ไปทำงานในคณะละครสัตว์ สร้างทุ่งดอกไม้ให้หญิงคนรัก เป็นเรื่องราวที่เขาได้เล่าให้ลูกเขาฟังแต่ลูกกับไม่เชื่อและคิดว่าพ่อกำลังโกหกเขาอยู่ ลูกชายเขายึดหลักความเป็นจริง คิดว่าเรื่องที่พ่อเล่ามาให้ฟังตั้งแต่เด็กไม่ใช่เรื่องจริงและคิดว่าพ่อไม่เคยพูดความจริงกับเขาเลย แต่ในมุมมองของพ่อ พ่อมักจะเล่านิทานรึเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นออกมาเป็นเทพนิยายเพื่อให้คนฟังสนุกโดยใส่จินตนาการเข้าไป เพื่อให้คนฟังรู้สึกสนุกไปด้วย แต่สำหรับลูกเขาไม่เชื่อเรื่องเหล่านั้น แล้วก็ไม่รู้ว่าพ่อของเขาเป็นคนอย่างไงกันแน่ และลูกชายของเขาก็คิดว่าพ่อไม่เคยรักเขา คิดว่าพ่อของเขานอกใจแม่ จึงพยายามเล่าเรื่องเพื่อเป็นการปิดบัง ทั้งที่Edward Bloom ต้องการให้เรื่องที่เขาเล่าตื่นเต้นน่าสนใจและให้ลูกชายของเขาจนจำได้แต่ลูกสะใภ้ชอบเรื่องราวที่ออกจากปากชายชราเธอเพลิดเพลินไปกับเรื่องเล่า และเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้อาจเป็นความจริง ในแง่ความรักของ Edward Bloom พบหญิงคนรัก คนที่เขายอมทำทุกอย่างเพื่อจะได้สร้างครอบครัวเล็กๆกับเธอ เขาพบเธอที่คณะละครสัตว์ เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็น เขายอมทำงานทุกอย่างที่คณะละครสัตว์ เพื่อให้รุเรื่องราวของเธอ เขาพยายามทำทุกวิถีทางที่จะได้ทำความรู้จักและแสดงออกจากตัวหนังสือและการกระทำเพื่อให้เธอว่าเขารักและอยากแต่งงานกับเธอ และเริ่มทำงานเก็บเงิน จนในที่สุดมีรถและมีบ้านเป็นของตัวเองและก็สมหวังในความรัก
หนังเรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นความเป็นตัวตนของบุคคลโดยมีปัจจัยสำคัญหล่อหลอมให้แตกต่างจากบุคคลอื่นEdward Bloom ได้มีความคิดที่แตกต่างจากคนทั่วไป เขาได้มองเรื่องทุกเรื่องให้เป็นในแง่บวกแล้วค่อยพยายามแก้ไขเรื่องนั้นๆ อย่างที่เขาเล่าเรื่องต่างๆออกมาเป็นเทพนิยายเพื่อให้คนฟังได้สนุกไปไม่ว่าจะเป็นวิธีการที่เขาโตเร็วผิดปกติ เห็นความตายในตาปลอมของแม่มด ไปทำงานในคณะละครสัตว์ สร้างทุ่งดอกไม้ให้หญิงคนรักพบเจอเมืองสเปกเตอร์อันประหนึ่งดินแดนสวรรค์ที่หญ้านุ่มจนแทบไม่ต้องสวมรองเท้า บางเรื่องอาจจะดูไร้สาระและเว่อร์เกินจิง
แต่ก็เป็น “ทัศนคติ” ในมุมมองที่แตกต่างกันคนเราไม่จำเป็นจะต้องมองทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกัน Edward
Bloom ได้มองเรื่องราวที่เขาได้พอเจอเป็นเรื่องราวที่เต็มไปด้วย จินตนาการ เป็นเรื่องที่ใครฟังแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นกับเรื่องที่ Edward Bloom ได้พอเจอและแก้ปัญหาเรื่องต่างๆ Edward Bloom เป็นคนที่มีความพยามยามต่ออุปสรรคที่เจอและเขาก็มักผ่านมันไปได้ จากเรื่องที่เขาเล่าเขาได้ช่วยคนๆนึงที่เขาเปรียบเทียบเป็นหมาป่าที่ดูน่ากลัว เขาก็เปรียบเทียบกับคนที่ขาดความอบอุ่น จะมีใครบ้าง เชื่อว่าเขามีเพื่อนเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่คล้ายยักษ์ ร่วมออกเดินทางเดินลัดป่าเข้าไปเจอหมู่บ้านแปลกประหลาดแสนสวยงามที่ผู้คนไม่นิยมสวมรองเท้าผจญภัยไปในดินแดนที่เหลือเชื่อ มีฉากที่น้ำท่วมแล้วตัวเขาอยู่ในรถรถจมอยู่ใต้น้ำ น้ำไม่มีทีท่าว่าจะไหลซึมเข้าในรถยังมีหญิงสาวเปลือยกายว่ายน้ำเขามาพอน้ำลด รถก็ค้างอยู่บนกิ่งไม้ซึ่งเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อแต่ก็ทำให้คนฟังรุสึกสนุกไปกับเรื่องราวเหล่านี้ที่เต็มไปด้วยจินตนาการจนคนฟังคิดว่าเป็นเรื่องจริงไป แล้วนอกจากนี้ในมุมมองด้านความรักที่เขาที่แตกต่างจากคนอื่นที่มีต่อผู้หญิงที่เขารัก แม้ว่าจะพบในเพียงครั้งแรกแต่เขาก็พยายามทุกอย่างเพื่อที่จะได้รู้จักเธอ เขาต้องยอมทำงานเพื่อแลกกับรู้ว่าเธอเป็นใครและด้วยความพยายามของเขาทำให้เขาประสบความสำเร็จในความรัก เขาทำงานเก็บเงินจนมีบ้านมีรถและมีความสุขในชีวิต การมีฝันหรือการมีจินตนาการไม่ใช่เรื่องเลวร้ายเสียหายหรือทำให้ใครเดือดร้อนคนเราอยู่ได้ด้วยความฝันและจินตนาการของแต่ละคนเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น